![](https://static.wixstatic.com/media/f83d9f_9259fc2285014057a6b297e0b27decdb~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_551,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/f83d9f_9259fc2285014057a6b297e0b27decdb~mv2.jpg)
สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ Square Enix ไม่ยอมออกมาฟันธงจำนวนภาคของ Final Fantasy VII Remake เสียที เป็นเพราะพวกเขาเองก็ไม่ใช่คนตัดสินใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ล่าสุด ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่ามันจะถูกทำเป็นไตรภาค โดยจะมี Final Fantasy VII Rebirth เป็นภาคสอง และมีกำหนดการวางจำหน่ายในปี 2023
Tetsuya Nomura ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ให้สัมภาษณ์กับ Famitsu ว่า ก่อนหน้านี้ ทีมผู้สร้างคิดว่าจะทำเป็นสองภาค แต่แล้วก็เปลี่ยนใจแบ่งมันออกเป็นสามภาคแทน
“ที่ก่อนหน้านี้เราไม่ยอมออกมาพูดเรื่องจำนวนภาคเลย เพราะเรากำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะทำเป็นสองภาคหรือว่าสามภาคดี” Nomura เล่า “เดิมทีเดียว ผมตั้งใจจะทำเป็นไตรภาค แต่ Kitase บอกว่าอยากลองทำเป็นสองภาคดู”
“มันก็เป็นไอเดียหนึ่งที่แวบเข้ามานะ” Kitase เสริม “ตอนที่เราเริ่มสร้าง Final Fantasy VII Remake เรายังคาดการณ์จำนวนคนและเวลาที่ต้องใช้ในการสร้างมันไม่ค่อยถูก แต่พอสร้างเสร็จแล้ว เราถึงรู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาและกำลังคนประมาณเท่าไร”
“ตอนนั้น ผมเลยคิดว่าเราน่าจะทำให้มันจบในสองภาคได้”
นอกจากนี้ Nomura ยังให้ความมั่นใจกับเหล่าแฟนๆ ว่า เกมชุด Remake นี้ จะไม่มีการตัดสถานที่ในเกม Final Fantasy VII ฉบับดั้งเดิมออกแน่นอน ถึงแม้ว่าอาจจะมีบางส่วนที่ดูแตกต่างไปจากเดิมบ้างก็ตาม
โดย Final Fantasy VII Rebirth กำหนดการวางจำหน่ายในฤดูหนาวปี 2023 สำหรับ PlayStation 5
และก่อนหน้านั้นก็จะมี Crisis Core: Final Fantasy VII Reunion ที่จะถูกวางจำหน่ายในช่วงฤดูหนาวปี 2022 บน PlayStation 5, Xbox Series X/S, PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch, และ PC
อ้างอิง: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-devs-were-considering-making-it-a-two-part-series
.
Comments