![](https://static.wixstatic.com/media/f83d9f_549806b8019b4983b1ee81c0d2b1a2fc~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_551,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/f83d9f_549806b8019b4983b1ee81c0d2b1a2fc~mv2.jpg)
Biomutant วางจำหน่ายแล้ววันนี้!!
นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีผู้เล่นรอคอยไม่น้อย เพราะจากการเปิดตัวและตัวอย่างเกมที่ผ่านๆ มา Biomutant ก็ได้สะท้อนภาพของความตั้งใจของผู้พัฒนาอย่าง THQ Nordic ที่ทุ่มเทกับรายละเอียดทั้งงานภาพและกราฟิกที่อลังการไม่น้อย พร้อมระบบการเล่นดูรวดเร็ว
Stefan Ljungqvist ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และครีเอทีฟอธิบายว่า "Biomutant เป็นเกมแนวต่อสู้แบบกังฟูหลังโลกที่ล่มสลายสไตล์ Open-world โดยทั่วไปแล้ว ผมคิดว่าโครงสร้างของเกมนี้ก็เหมือนกับ Zelda: Breath of the Wild แต่กระแสตอบรับกลับบอกว่ามันเหมือนเป็นส่วนผสมแบบแปลกๆ เพี้ยนๆ ที่ลงตัวของ Ratchet & Clank, Devil May Cry, Batman: Arkham และอีกสองสามเกม"
และนั่นคือรายชื่อเกมที่มีอิทธิพลต่อ Biomutant อาจเรียกได้ว่า นี่คือเกมที่เป็นเหมือนการผสมผสานของเกม Open-world หลายเกมเข้าด้วยกัน ซึ่งเราสามารถปรับแต่งตัวละครเองได้ตามใจ โดยมีสายพันธุ์สัตว์เยอะแยะมากมายจนเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เราสามารถเลือกต่อสู้ในระยะไกลหรือระยะประชิดก็ได้ ส่วนการกลายพันธุ์ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถให้ตัวละครของผู้เล่น เช่น การกระโดดบนเห็ดเด้งแล้วใช้พลังนิ้วสายฟ้าต่อ นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถคราฟของขึ้นเองได้และอัพเกรดมันได้ โดยที่มันจะไม่แตกหรือพัง ขณะที่การออกเดินทางสู่โลกในเกม ผู้เล่นสามารถเลือกเป็นพันธมิตรกับหนึ่งในหกเผ่าที่ทำสงครามกันอยู่ มากไปก่อนนั้น ผู้เล่นยังสามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์, สไตล์การเล่น, ทักษะ, อุปกรณ์ และเผ่าที่เป็นพันธมิตรระหว่างการเล่นได้อีกด้วย
แม้ว่า Biomutant จะมีส่วนที่ได้รับอิทธิพลจากเกมอื่นๆ แต่คุณสมบัติเฉพาะของเกมนี้ก็ทำให้เกมโดดเด่นมีเอกลักษณ์ และแน่นอนว่า Biomutant ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีแนวคิดบางอย่างเป็นของตัวเอง การสำรวจโลกคือการขับเคลื่อนเกมสไตล์ Open-world ที่ดี อย่างที่ Ljungqvist ได้บอกไว้ว่า "ในฐานะทีม เราหวังว่าการสำรวจโลกจะกลายเป็นปัจจัยร่วมกันที่จะทำให้เกมมีจิตวิญญาณอันพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง"
.
Comments