top of page

15 ข้อที่ควรรู้ก่อนเล่น Kena: Bridge of Spirits

Writer's picture: MaxLabMaxLab

Updated: Sep 23, 2022



Kena: Bridge of Spirits เป็นอีกหนึ่งเกมที่ดึงดูดใจคอเกมเอามากๆ และในตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เราจะได้เล่นเกมแนวแอ็คชันผจญภัยจากค่ายผู้พัฒนา Ember Lab ความตื่นเต้นของเหล่าคอเกมต่างเพิ่มขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุด และในวันนี้เราจะมาเล่าถึงรายละเอียดต่างๆ ของเกมให้ฟังกัน



1. เนื้อเรื่อง

Kena: Bridge of Spirits เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางเข้าสู่โลกหลังความตายของเหล่าดวงวิญญาณ มีดวงวิญญาณมากมายที่ทนทุกข์ทรมานและไม่สามารถก้าวผ่านไปยังอีกภพได้ ในเกมนี้ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Kena วิญญาณสาวน้อยที่คอยให้ความช่วยเหลือเหล่าดวงวิญญาณให้ข้ามไปสู่อีกภพภูมิ โดย Kena จะต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านร้างที่เคยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติเมื่อนานมาแล้ว และขึ้นไปยังแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาเพื่อไขปริศนาของหมู่บ้านนี้และนำความสงบสุขกลับคืนมาให้กับดวงวิญญาณทั้งหลายอีกครั้ง


2. เกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Zelda

เห็นได้ชัดว่า Kena: Bridge of Spirits ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมยอดนิยมหลายๆ เกม ตั้งแต่ Pikmin ไปจนถึง God of War แต่เกมที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Kena มากที่สุดคงหนีไม่พ้น The Legend of Zelda ทั้งในแง่ของการต่อสู้, การสำรวจโลก และการเล่นสไตล์ดันเจี้ยน ที่ดูเหมือนจะถอดแบบออกมาจากเกม Zelda เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ Ember Lab ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องสั้นชื่อ Terrible Fate ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก The Legend of Zelda: Majora’s Mask อีกที


3. The Rot

เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ สีดำที่น่ารักที่เรียกว่า The Rot มีความสำคัญอย่างมากใน Kena: Bridge of Spirits ถึงแม้เราจะยังไม่รู้ความเป็นมาของพวกมัน แต่ The Rot ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีประโยชน์ Kena จะได้พบกับ The Rot หลายตัวตลอดการเดินทาง เธอสามารถรวบรวมพวกมันไว้เป็นกองทัพส่วนตัวเพื่อช่วยในการต่อสู้ไปจนถึงการช่วยไขปริศนาและอื่นๆ อีกมากมาย


4. การต่อสู้

ใน Kena: Bridge of Spirits ผู้เล่นจะได้รับอาวุธเป็นไม้พลองวิเศษที่สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคันธนูได้ ทำให้ผู้เล่นสามารถโจมตีได้ทั้งระยะใกล้และไกล รวมไปถึงปรับระดับความรุนแรงของการโจมตีได้ด้วย ขณะเดียวกัน The Rot ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ก็จะมีบทบาทสำคัญในการร่วมต่อสู้ พวกมันสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู ทำให้ศัตรูไขว้เขว และเมื่อผู้เล่นโจมตีศัตรูจนอ่อนแอพอ พวก The Rot ก็จะรุมกระโจนเข้าใส่และช่วยจัดการเหล่าศัตรูให้ นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถรวมตัวกันประกอบรูปร่างเป็นอาวุธดีดตัวใส่ศัตรูได้อีกด้วย


5. Pulse

หนึ่งในความสามารถพิเศษของ Kena ที่จะกลายมาเป็นกลไกสำคัญในการเล่นเกมคือ Pulse ระหว่างการต่อสู้ Pulse จะช่วยเปิดใช้งานโล่กำบังที่มีแถบพลังสุขภาพของตัวเอง นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถใช้ Pulse ในการแกะรอยส่องหาเบาะแสต่างๆ รวมไปถึงการไขปริศนาอีกด้วย


6. การสำรวจและไขปริศนา

เห็นได้ชัดเลยว่า Kena: Bridge of Spirits ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Legend of Zelda มาเต็มๆ เกมมีเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาและเน้นการสำรวจโลก โดยจะมี The Rot เป็นตัวช่วยสำคัญในการไขปริศนา ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้เข้าไปสำรวจในดินแดนใหม่ๆ ถึงแม้ทีมผู้พัฒนาจะยังไม่เคยออกมายืนยันว่าอาณาเขตในโลกของ Kena นั้นกว้างใหญ่เพียงใด แต่จากการที่มันขึ้นชื่อว่าเป็นเกมไขปริศนาสำรวจโลกแล้ว เราก็ค่อนข้างตั้งความหวังไว้สูงทีเดียว


7. การออกแบบเป็นแบบเส้นตรงแนวกว้าง

ต้องบอกก่อนเลยว่าโครงสร้างของโลกใน Kena: Bridge of Spirits ไม่ได้เป็นแบบ Open-world แต่ทีมผู้พัฒนานิยามมันว่าเป็นแบบ “เส้นตรงแนวกว้าง” โดยมีเส้นทางหลักที่ตัวละครจะต้องเดินทางไป ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางเปิดให้เราได้สำรวจ และมีภารกิจเสริมให้เลือกทำอีกด้วย ระหว่างการเล่น ผู้เล่นจะได้เข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้น แต่ผู้เล่นก็ยังสามารถย้อนกลับมาสำรวจเส้นทางเก่าๆ ที่เคยเดินทางผ่านไปแล้วได้


8. ศูนย์กลางของเกม

Kena: Bridge of Spirits มีสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของเกมด้วยเช่นกัน นั่นคือหมู่บ้านร้างที่เราเคยกล่าวถึงไว้ก่อนหน้านี้ ผู้เล่นจะต้องย้อนกลับมายังหมู่บ้านนี้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเกม จากที่นี่ ผู้เล่นจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับหมู่บ้านแห่งนี้ และแต่ละครั้งที่กลับมาผู้เล่นจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านนี้ทีละนิดๆ


9. การปรับแต่งตัวละครและอัพเกรด

Kena: Bridge of Spirits ไม่ใช่เกม RPG ดังนั้นการดำเนินเรื่องจึงค่อนข้างจำกัดพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับแห้งแล้งไปเสียทีเดียว เรายังมี The Rot ที่คอยมาสร้างสีสันและช่วยเหลือในการต่อสู้ ยิ่งมี The Rot มากเท่าไร ผู้เล่นก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น และ The Rot ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการอัพเกรดค่าต่างๆ อีกด้วย การที่เกมเลียนแบบการเล่นแบบ RPG มาบ้าง ทำให้เรายังสามารถอัพเกรดความสามารถและสกิลต่างๆ ได้ ส่วนการปรับแต่งนั้นผู้เล่นสามารถเลือกหมวกแบบต่างๆให้กับ The Rot ได้ แต่จะมีอะไรนอกเหนือไปจากนี้อีก ต้องรอดูกันต่อไป


10. ความยาวของเกม

ถึงแม้เราจะชอบเล่นเกมยาวๆ แบบมหากาพย์ที่เล่นได้เป็นวันๆ แต่เราก็รู้สึกพอใจกับเกมความยาวพอดิบพอดีที่สร้างมาอย่างประณีต บรรจง ไม่ยืดเยื้อเช่นเดียวกัน และดูเหมือนว่า Kena: Bridge of Spirits จะเป็นเกมประเภทหลังที่กล่าวมานี้ แม้ทีมผู้พัฒนาจะยังไม่ได้ยืนยันว่าเกมนี้จะมีความยาวเท่าไร แต่พวกเขาเคยกล่าวไว้ว่าผู้เล่นสามารถเล่นเกมนี้ให้จบได้ภายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์


11. ความพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ Dualsense

ในตอนนี้เกมส่วนใหญ่ที่ออกมาบน PlayStation 5 มักจะมีการใช้คุณสมบัติเฉพาะของคอนโทรลเลอร์ DualSense รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และ Kena ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่อาศัยคุณสมบัติพิเศษนี้มาทำให้เกมน่าเล่นยิ่งขึ้น Ember Lab ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะมีการใช้ Adaptive trigger และการตอบสนองแบบสัมผัส ซึ่งจะยอดเยี่ยมแค่ไหนนั้นคงจะบอกได้หลังจากที่เล่นไปแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีข่าวออกมาว่าเราจะได้สัมผัสกับความพิเศษของ Adaptive trigger ในช่วงที่ Kena ใช้ง้างคันธนูซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจของเธอ


12. การอัพเกรดสำหรับเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ๆ

Kena: Bridge of Spirits จะปล่อยให้เล่นบน PlayStation 5, PlayStation 4, และ PC รวมไปถึงเครื่องเล่นเกมยุคปัจจุบันทั้งหลาย (แต่ไม่ทั้งหมด) โดยสามารถอัพเกรดได้ฟรี ดังนั้น ถ้าคุณซื้อเกมบน PlayStation 4 คุณก็สามารถอัพเกรดไปเล่นบน PlayStation 5 ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย


13. ราคา

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มีเกมดังหลายเกมที่เพิ่งปล่อยออกมาแล้วทำให้เหล่าแฟนเกมต้องขุ่นเคืองใจด้วยราคาที่ดูแพงเกินไป แต่สำหรับ Kena: Bridge of Spirits ตัดสินใจให้ราคาที่สมเหตุสมผลแก่ทุกคน โดยเวอร์ชัน Standard Edition มีราคาอยู่ที่ 39.99 เหรียญเท่ากันทุกแพลตฟอร์ม ส่วน Deluxe Edition ราคา 49.99 เหรียญ


14. Digital Deluxe Edition

ใน Deluxe Edition นี้ จะมีส่วนประกอบเพิ่มขึ้นมาสองสามอย่างจากเวอร์ชัน Standard Edition ได้แก่ เพลงประกอบ Digital Soundtrack, ผู้ช่วยสำหรับ Kena, และสกินสีทองที่ใช้แต่งตัวให้ The Rot


15. สเปคสำหรับ PC

คอเกมไม่ต้องเป็นกังวลไป Kena: Bridge of Spirits ไม่ต้องใช้สเปคสูงมากมาย เพียงซีพียู AMD FX-6100 หรือ Intel i3-3220 ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ส่วนการ์ดจอจะใช้ขั้นต่ำเป็น AMD Radeon HD 7750 หรือ Nvidia GeForce GTX 650 กับ RAM 8 GB ก็สามารถเล่นได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากเล่นอย่างลื่นไหล เราแนะนำให้ใช้ AMD Ryzen 7 1700 หรือ Intel i7-6700K กับ AMD RX Vega 56 หรือ Nvidia GTX 1070 พร้อมด้วย RAM 16 GB โดยตัวเกมนี้จะใช้พื้นที่ความจำเครื่องอยู่ที่ 25 GB


อ้างอิง: https://gamingbolt.com/kena-bridge-of-spirits-15-new-things-you-need-to-know

.

Comments


About Us

Social Media

SUBSCRIBE 

Fuiler Studio เป็นสื่อที่มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารและสาระวงการเกมที่มีคุณภาพ มุ่งหวังให้เกินการรับรู้ในเชิงบวก

รู้ข่าวสารและสาระวงการเกมก่อนใครที่ Fuiler Studio

Thanks for submitting!

© 2023 Fuiler Studio

bottom of page